CuraVAC SILVER
Advanced Wound Dressing for Negative Pressure Wound Therapy
Diabetic Foot Ulcer / Pressure Injury / Traumatic Wound / Skin Graft / Dehisced Wound
ข้อมูลผลิตภัณฑ์และวิธีการใช้งาน
-
ข้อมููลโดยสรุป
CuraVac เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการสร้างเนื้อเยื่อแกรนูเลชันในบริเวณที่เนื้อเยื่ออ่อนมีจุดบกพร่อง โดยหลังจากที่เล็มเนื้อตายและเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออก จะทำการใช้แรงดันในการกำจัดสารหลั่ง, เพิ่มการไหลเวียนของเลือด, กระตุ้นการเกิดเซลล์, สร้างสภาวะที่มีความชื้นเหมาะสม และปัจจัยอื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อแกรนูเลชันผ่านการใช้เครื่องมือดังกล่าว
-
องค์ประกอบและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นวัสดุรักษาแผลที่ทำจากโฟมรักษาลำดับที่ 2 ที่ทำการดูดซึมสารหลั่งที่เกิดจากแผล, ป้องกันการปนเปื้อนของบาดแผล และปกป้องบริเวณบาดแผล ประกอบด้วย foam dressing ที่ทำหน้าที่ปกป้องบริเวณแผล, suction head ที่ใช้สำหรับกำจัดสารหลั่งที่เกิดจากแผล และอุปกรณ์เสริมอันประกอบด้วยสายต่อ, connector และที่หนีบ วางโฟมของผลิตภัณฑ์บนบริเวณแผล วางหัวดูดไว้บนโฟม ทำการยึดโฟมและหัวดูดโดยใช้ฟิล์มและเชื่อมต่อหัวดูดกับจุดสูญญากาศที่มีอยู่เพื่อใช้แรงดันลบกับโฟม สารหลั่งจะถูกขับออกไปยังแหล่งสูญญากาศผ่านฐานดูดและท่อที่เชื่อมต่อกับโฟมเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของบาดแผลและเพื่อป้องกันบริเวณแผล ชื่อรุ่นของผลิตภัณฑ์จะแบ่งตามขนาดของฟิล์มและขนาดของโฟม
-
ประสิทธิภาพและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
การป้องกันการติดเชื้อและป้องกันบริเวณบาดแผล
-
วิธีการจัดเก็บหรือจัดการ
- เก็บบรรจุภัณฑ์ในตู้จัดแสดงที่บริเวณในร่ม (ที่มีลักษณะแห้งและมีอุณหภูมิห้อง)
- หลีกเลี่ยงสถานที่ร้อนและชื้นสำหรับการจัดเก็บ
- เก็บให้พ้นจากการถูกแสงแดดโดยตรง
-
เตรียมความพร้อมก่อนการใช้งาน
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโฟมที่มีลักษณะที่เหมาะสมกับบริเวณโดยรอบของแผล
- ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ก่อนเปิดใช้ควรตรวจสอบความเสียหายของบรรจุภัณฑ์และตรวจสอบวันหมดอายุ
- ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการใช้ผลิตภัณฑ์
- ทำความสะอาดแผลและบริเวณโดยรอบให้แห้งสนิท อ่านคู่มือผู้ใช้อย่างรอบคอบก่อนการใช้งาน
- อ่านคู่มือนี้อย่างละเอียดก่อนใช้
-
วิธีใช้และลำดับการประกอบ
(โปรดดูคู่มือด้านหลัง: ใช้ตามหลักเกณฑ์)- หลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์แล้วให้นำผลิตภัณฑ์ออกโดยใช้ที่คีบ
- วางโฟมคลุมแผล ถ้าจำเป็นให้ใส่วัสดุโฟมเพื่อให้เหมาะสมกับรูปร่างและขนาด
- ยึดหัวดูดเข้ากับแผ่นฟิล์มก่อนจากนั้นห่อโฟมคลุมด้วยแผ่นฟิล์ม
- เชื่อมต่อหัวดูดและท่อที่ติดตั้งเข้ากับขั้วต่อ
- เตรียม canister ที่ใช้เก็บสารหลั่งและสุญญากาศ จากนั้นนำ canister และ connector มาต่อกับสาย tube
- ทำการเปิดระบบสุญญากาศ จากนั้นตรวจสอบว่าแรง negative pressure ทำงานบริเวณบาดแผลหรือไม่
- หากแรง negative pressure ไม่ทำงาน ให้ตรวจสอบรอยรั่วบริเวณดังกล่าวและห่อด้วยฟิล์มเพิ่มเพื่อป้องกันการรั่ว
- สังเกตเวลาการใช้งานปกติ (48 ชั่วโมง) และตรวจสอบแรงดันเป็นประจำ
- หากการรักษาเสร็จสิ้นหรือจำเป็นต้องเปลี่ยนให้หยุดการทำงานของจุดสูญญากาศและถอดโฟมออก
- ใช้งานเพียงครั้งเดียวเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทใช้แล้วทิ้ง
- หากผู้ป่วยจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายให้ขัน tube ด้วยแคลมป์เพื่อรักษาแรงดันลบ จากนั้นนำหลอดออกจากแหล่งกำเนิดสุญญากาศแล้วทำการเคลื่อนย้าย หลังจากนั้นไม่นานความดันลบจะไม่สามารถคงไว้ได้ เมื่อเคลื่อนย้ายเป็นเวลานานควรมีแหล่งสูญญากาศแบบพกพาสำหรับการเชื่อมต่อ
-
การจัดเก็บและการจัดการหลังการใช้งาน
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อและควรใช้งานทันทีหลังจากเปิดใช้ ไม่ควรเก็บและนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำหลังการใช้งานแล้วกำจัดผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วตามขั้นตอนที่เหมาะสม
ข้อควรระวัง
-
ข้อควรระวังเมื่อใช้
- ผลิตภัณฑ์นี้เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อ ห้ามใช้เมื่อผลิตภัณฑ์ถูกเปิดมาก่อนหน้าหรือมีการชำรุดเสียหาย
- แรงดันที่เหมาะสมคือ 125mmHg และแรงที่มากเกินไปอาจทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดหรือมีผลการรักษาที่ล่าช้าลง
- รอบการเปลี่ยนเป็น 48 ชั่วโมงของการใช้งานปกติ (12 ชั่วโมงสำหรับบาดแผลที่ติดเชื้อ) การใช้งานในระยะยาวอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง
- ตรวจสอบการเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อให้แน่ใจว่ารักษาระดับแรงดันไว้
- เมื่อเวลาผ่านไปและเนื้อเยื่อแกรนูเลชันโตขึ้น โฟมอาจเกาะติดกับแผลได้ จึงควรแช่โฟมด้วยน้ำเกลือแล้วนำออก หรือทำการเปลี่ยนโฟมให้บ่อยขึ้น
- ปิดผนึกโฟมและหัวดูดอย่างถูกต้องด้วยฟิล์มเพื่อปิดแผล
- หากไม่ได้รับการปิดผนึกอย่างเหมาะสมอาจไม่สามารถดูดซึมเอาสารหลั่งออกได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อของแผลและสารที่ติดเชื้อสามารถแทรกซึมได้
- เมื่อถอดอุปกรณ์ที่ใช้แล้ว ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันในลักษณะเดียวกับการจัดการผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งที่ติดเชื้อแบคทีเรียก่อนทำการกำจัดอุปกรณ์ดังกล่าว
- ผลิตภัณฑ์นี้มีอายุ 3 ปี
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ไคโตซานและเงิน
- หากมีอาการคัน (รอยแดง, อักเสบ), เกิดเนื้อเยื่อตาย, มีปฏิกิริยาภูมิแพ้, argyrosis หรือความเป็นพิษของเงิน ให้หยุดการใช้และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
- การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ร่วมกับโปรตีเอสเฉพาะอาจทำให้เกิดการยับยั้งเอนไซม์ซิลเวอร์
-
ข้อควรระวังทั่วไป
อาการไม่พึงประสงค์ดังต่อไปนี้ถูกพบในระหว่างการทดลองทางคลินิกของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว แต่ก็ไม่รุนแรงและมีการทำการปรับปรุงให้ดีขึ้นทั้งหมด จากลักษณะเฉพาะของ BMP-2 เป็นที่ทราบกันดีว่าอาการบวมอาจเพิ่มขึ้นหลังจากกระบวนการรักษาได้
- แพทย์ควรทำการพูดคุยกับผู้ป่วยเกี่ยวกับข้อบ่งชี้ ข้อห้าม ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ไม่สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยที่มีปัจจัยทางการแพทย์ที่ไม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างเหมาะสม
- หากมีอาการแพ้หรืออาการติดเชื้อในขณะที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ให้หยุดใช้และทำตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม
-
ข้อห้าม
ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์นี้กับผู้ป่วยต่อไปนี้
- เนื้อเยื่อตายที่เกิดจาก Eschar
- Osteomyelitis ที่ยังไม่ได้รับการรักษา
- แผลรุนแรง (Malignancy in the wound)
- หลอดเลือด, เส้นประสาท, รอยต่อ, อวัยวะภายใน
- ผู้ป่วย sternum ในบริเวณลึกที่มีอาการไออย่างรุนแรง
- โรคที่แพทย์ผู้ทำการรักษาเห็นว่าไม่เหมาะสม
-
ข้อควรพิจารณาก่อนการรักษา
ก่อนที่จะทำการรักษาด้วย negative pressure ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงต่อผู้ป่วยดังต่อไปนี้อย่างรอบคอบ
- ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการตกเลือด
- ผู้ป่วยที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือสารยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด
- ผู้ป่วยที่มีีอาการดังต่อไปนี้
- หลอดเลือดที่อ่อนแอและติดเชื้อ, Anastomosis vascular, แผลติดเชื้อ, Osteomyelitis
- อวัยวะภายในที่มีการเปิดออก, หลอดเลือด, เส้นประสาท,เส้นเลือด, เส้นเอ็น, ขอบคมในบาดแผล (เช่น เศษกระดูกแตก)
- อาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (กระตุ้นระบบประสาท), Enteric fistulas
- ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องมีปัจจัยดังต่อไปนี้
- MRI, ช็อกด้วยไฟฟ้า, ห้องออกซิเจนแรงดันสูง
- ร่างกายและน้ำหนักของผู้ป่วย
- ใช้รอบ ๆ เส้นประสาทเวกัส
- ใช้อุปกรณ์ทำแผลโดยรอบต่อพ่วง
-
※ ผลิตภัณฑ์นี้จัดเป็น ‘อุปกรณ์ทางการแพทย์’ และควรศึกษา ‘ข้อควรระวังในการใช้’ และ ‘วิธีใช้’ อย่างละเอียด