GISELLELIGNE

Crosslinked Hyaluronic Acid Filler

สอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

ข้อมูลผลิตภัณฑ์และวิธีการใช้งาน

  • วัตถุประสงค์ในการใช้งาน

    นำกรดไฮยาลูโรนิคที่มีส่วนผสมของลิโดเคนที่ผ่านกระบวนการ crosslinked ฉีดลงใต้ผิวหนังเพื่อจุดประสงค์ในการช่วยฟื้นฟูริ้วรอยในชั่วขณะหนึ่ง

  • วิธีการจัดเก็บหรือจัดการ

    2℃ – 30℃, หลีกเลี่ยงแสงแดดและการแช่แข็ง

  • เตรียมความพร้อมก่อนการใช้งาน

    • ก่อนการใช้งานครั้งแรก แพทย์ควรจะได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่เกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการการใช้งานจากผู้ผลิตหรือตัวแทนขายผลิตภัณฑ์
    • ตรวจสอบวันหมดอายุบนฉลากผลิตภัณฑ์
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสถานะการฆ่าเชื้อไม่ได้รับความเสียหายก่อนใช้งาน
    • ก่อนการใช้งาน แพทย์ควรอธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงข้อบ่งชี้, ข้อห้าม, ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์
    • แพทย์ควรอ่านและทำความเข้าใจคำแนะนำในการใช้
  • วิธีใช้

    • ทำการฆ่าเชื้อในบริเวณที่ต้องการใช้ให้เพียงพอก่อนทำการรักษา
    • หลังจากถอดฝาหลอดฉีดยาออกแล้วให้หมุนเข็มตามเข็มนาฬิกาเพื่อยึดเข็มให้เข้าที่จนสุด
    • ถอดฝาครอบเข็มออกโดยดึงตามเข็มฉีดยา
    • ดันลูกสูบจนกระทั่งหยดฟิลเลอร์ตกลงไปยังปลายลาดก่อนทำการฉีด
    • ฉีดให้เนื้อฟิลเลอร์เข้าสู่ในผิว โดยสอดเข็มด้วยแรงจำนวนหนึ่งจากน้ันค่อยๆ ดึงเข็มกลับ และสอดกลับด้วยแรงที่เท่ากัน หรือสอดปลายเข็มให้แตะถึงความลึกที่ต้องการ ฉีดเนื้อฟิลเลอร์จำนวนเล็กน้อย และดึงออก จากนั้น สอดเข็ม (ซ้ำเดิมอย่างต่อเนื่อง) ในบริเวณรอบข้าง หรืออาจใช้ทั้งสองวิธี
    • หยุดการฉีดก่อนที่จะเอาเข็มออกเพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์ล้นบริเวณที่ฉีด
    • ในบริเวณที่แช่ ทำการนวดเบา ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
    • แปะผ้าเย็นลงบริเวณที่ทำการรักษาสัก 2 – 3 นาทีเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบวม
  • การจัดเก็บและการจัดการหลังการใช้งาน

    ผลิตภัณฑ์นี้เป็นแบบใช้แล้วทิ้ง จึงต้องทำการทิ้งหลังจากใช้แล้วและห้ามนำมาใช้ซ้ำ

ข้อควรระวัง

  • ข้อห้าม

    • ห้ามฉีดเข้าเส้นเลือด
    • ห้ามใช้บริเวณรอบดวงตา เช่น ระหว่างหัวคิ้ว
    • อย่าใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
    • อย่าใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการดังต่อไปนี้
      • ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มจะเป็น keloids หรือมี hypertrophic scar
      • มีอาการผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ (สำหรับผู้ป่วยที่ไวต่อการอักเสบหรือการติดเชื้อ ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์นี้จนกว่าจะรักษาหายเป็นปกติ)
      • ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติหรือมีโรคที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
      • ผู้ป่วยที่มีอาการแพ้แบคทีเรีย
      • ผู้ป่วยที่แพ้ลิโดเคนหรือโซเดียมไฮยาลูโรเนต
      • ผู้ป่วยที่มีประวัติโรคแพ้ภูมิตัวเอง
      • ผู้ป่วยที่มีไข้รูมาติกเฉียบพลันจากภาวะแทรกซ้อนของหัวใจ
      • ผู้ป่วยที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงหรือมีประวัติการแพ้
      • ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติมีอาการแทรกซ้อน
      • สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่กำลังให้นมบุตร
      • ห้ามใช้ในผู้เยาว์
    • ห้ามนำไปใช้ในบริเวณที่เป็นโรคผิวหนังและมีอาการอักเสบ
    • ห้ามใช้ร่วมกับการรักษาผิวอื่น ๆ เช่น การรักษาด้วยเลเซอร์, decortication ทางเคมี, dermabrasion และอื่นๆ
  • ข้อควรระวังในการใช้งาน

    • การรักษาจะต้องดำเนินการโดยแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับการทำงานของผลิตภัณฑ์นี้อย่างเหมาะสม
    • ก่อนทำการรักษา แพทย์ควรทำการอธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงข้อบ่งชี้, ข้อห้าม และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์
    • ควรทำความสะอาดบริเวณที่ทำการรักษาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมและมีการประเมินว่าผู้ป่วยควรได้รับยาชาก่อนเริ่มการรักษาหรือไม่
    • การฉีดเข้าสู่ผู้ป่วยที่มีอาการ herpetic eruption อาจทำให้เกิดเริมซ้ำได้
    • ไม่รับรองความปลอดภัยในผู้ป่วยที่มีสภาพผิวที่ไวต่อการเกิด hyperpigmentation
    • ไม่รับรองความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการใช้งานในระยะยาวนอกเหนือจากช่วงเวลาที่เปิดเผยผ่านการศึกษาในเชิง clinical
    • ไม่รับรองความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในการใช้เพื่อเสริมริมฝีปาก
    • ไม่มีข้อมูลเชิง clinical เกี่ยวกับประสิทธิภาพ, การดื้อยา และอื่นๆ ในการฉีดผลิตภัณฑ์นี้ในบริเวณที่เคยได้รับการรักษาด้วยฟิลเลอร์ตัวอื่นแล้ว
    • ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือดควรได้รับการแจ้งให้ทราบถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการมีเลือดออกในระหว่างการฉีด
    • ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการกินยาแอสไพรินและวิตามินในปริมาณที่มากเกินไปก่อนทำการรักษา
    • ผู้ป่วยไม่ควรแต่งหน้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์และหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด, แสงอัลตราไวโอเลต และอากาศที่เย็นจัดเป็นเวลาสองสัปดาห์และหลีกเลี่ยงการซาวน่า
    • ในกรณีที่เข็มตัน อย่าใช้แรงกดที่มากเกินไปในการฝืนทำการฉีด ให้ทำการเปลี่ยนเข็ม
  • ภาวะที่ไม่พึงประสงค์

    กรดไฮยาลูโรนิกสามารถตกตะกอนได้โดยแอมโมเนียมควอเทอนารีและคลอโรเฮกซิดีน อาทิ Benzalkonium chloride ซึ่งเป็นยาฆ่าเชื้อ ดังนั้น ไม่ควรเก็บผลิตภัณฑ์นี้ไว้กับอุปกรณ์ผ่าตัดหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุปกรณ์ดังกล่าว

  • ปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์

    • แพทย์ควรอธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากกระบวนการการรักษาเสร็จสิ้น
      • อาจเกิดอาการอักเสบ, อาการคัน และความเจ็บปวดหลังฉีด
      • (รอยแดง, บวม, ผื่นแดง ฯลฯ) และอาการนี้อาจคงอยู่เป็นเวลายาวนานหลายชั่วโมงจนถึงหนึ่งสัปดาห์
      • เลือดออกในบริเวณทีฉีด
      • มีการแข็งตัว, เปลี่ยนสี หรือได้ผลลัพธ์ที่ไม่เพียงพอในบริเวณที่ฉีด
      • case of necroses in the glabellar resion
      • มีประวัติอาการ granulomas, hypersensitivity และ abscess หลังการใช้ผลิตภัณฑ์กรดไฮยาลูโรนิกอื่น ๆ
      • ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงปฏิกิริยาการอักเสบหรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ยังคงมีอยู่หากอาการนั้นเป็นอยู่นานกว่า 1 สัปดาห์และแพทย์จะต้องทำการรักษาอย่างเหมาะสม
  • คำเตือน

    • ตรวจสอบสถานะการฆ่าเชื้อว่าไม่มีจุดเสียหายก่อนใช้งาน
    • ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์หากพบว่าผลิตภัณฑ์มีความเสียหาย
    • ตรวจสอบวันหมดอายุบนฉลากผลิตภัณฑ์
    • ห้ามผสมใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น
    • ทิ้งหลอดฉีดยาและผลิตภัณฑ์ที่เหลือหลังการใช้งาน
    • ไม่ต้องทำการฆ่าเชื้อซ้ำ
    • ห้ามนำมาใช้ซ้ำ
  • ※ ผลิตภัณฑ์นี้จัดเป็น ‘อุปกรณ์ทางการแพทย์’ และควรศึกษา ‘ข้อควรระวังในการใช้’ และ ‘วิธีใช้’ อย่างละเอียด

to be updated.

OK close